Chang Thai Motorbike Rental Phuket

วัดศรีสุนทร แต้มบุญไหว้พระ 9 วัดในภูเก็ต วันเดียวเก็บครบ!

วัดศรีสุนทร

วัดศรีสุนทร แห่งนี้ จะตั้งอยู่ใน ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นวัดที่โดดเด่นและสวยงาม ด้วยรูปปั้นของพระพุทธรูปนอนขนาดใหญ่กว่า 95 ฟุตเลยค่ะ ซึ่งแสดงถึงพระพุทธเจ้าเมื่อตอนปรินิพพาน และยังมีพระพุทธรูปอื่นๆ ที่สวยงดงาม เรียงรายกันอยู่ที่บริเวณทางเข้าอีกด้วย วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว ในปี พ.ศ. 2335 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ วัดลิพอน แต่ต่อมาทางวัดก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่สองวีรสตรี ที่ปกป้องเมืองถลางหรือจังหวัดภูเก็ตนี้ เอาไว้เมื่อครั้งในอดีตนั่นเอง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 22 ไร่ของบ้านลิพอน ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2335 เดิมชื่อวัด “ลิพอน” ต่อมาทางวัดได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่วีรสตรีทั้งสองท่านของจังหวัดภูเก็ตที่ได้ปกป้องจังหวัดภูเก็ตหรือเมืองถลางเอาไว้จากข้าศึกเมื่อในอดีต

ภายในวัดโดดเด่นด้วยพระนอนขนาดใหญ่กว่า 95 ฟุตประดิษฐานบนอาคารซึ่งเป็นฐานของพระนอนองค์นี้ ถือเป็นพระนอนขนาดใหญ่ที่มีความงดงามและแปลกตาที่ไม่ปรากฏให้เห็นที่วัดแห่งอื่น นอกจากนี้ภายใน ยังมีพระอุโบสถกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร ที่สร้างแบบโบราณ วัดศรีสุนทร  โดยมีฝาผนังเต็มเพียงด้านหลังด้านเดียว อีกสามด้านมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นลักษณะของโบสถ์แบบโบราณที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ส่วนศาลาการเปรียญเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น ความกว้าง 16 เมตร ยาว 36 เมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519

บรรยากาศภายในมีความร่มรื่น เงียบสงบ และเหมาะสำหรับการมานั่งวิปัสสนากรรมฐาน โดยนอกจากพระนอนซึ่งโดดเด่นที่สุดภายในวัดแล้ว บริเวณทางเข้าวัดยังมีพระพุทธรูปอื่นๆ ที่งดงามอีกหลายองค์เรียงรายอยู่ด้วยเช่นกัน เป็นวัดที่สวยงามอีกวัดหนึ่งของเมืองถลาง ภูเก็ตเลย มีพระพุทธรูปนอนขนาดใหญ่กว่า 95 ฟุต สวยงามมาก ๆ และยังมีพระพุทธรูปอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สวยงามไม่แพ้กันเลย เดิมวัดนี้ชื่อว่า วัดลิพอน

ต่อมาทางวัดได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น วัดศรีสุนทร

เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่สองวีรสตรี

ที่ปกป้องเมืองถลางไว้ในครั้งอดีตนั่นเอง บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นเงียบสงบมาก ๆ เหมาะกับการมานั่งสมาธิหรือใครอยากจะเข้ามาไหว้พระทำบุญก็เหมาะมาก ๆ เลยค่ะ ใครมาเที่ยวภูเก็ตต้องไม่ลืมแวะมาที่วัดนี้เลย วัดศรีสุนทร และวันนี้เราก็ได้รวมเอาที่พักใกล้ ภูเก็ต มาฝากด้วยค่า เผื่อใครที่อยากจะเดินทางสะดวกไม่ต้องเดินทางไกลแวะมาจองที่พักได้เลย เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ มีที่ธรณีสงฆ์ 3 แปลง เนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา

เดิมชื่อ วัดบ้านพอน สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2335 ด้านการศึกษา ทางวัดจัดให้มีการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2469 นอกจากนี้ยังจัดให้มีห้องสมุดบริการประชาชน หน่วยฌาปนกิจสงเคราะห์ และโรงเรียน วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ได้แก่ อุโบสถกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร แบบโบราณมีฝาผนังเต็มเพียงด้านหลังด้านเดียว วัดศรีสุนทร ภูเก็ต อีกสามด้านมีเพียงครึ่งเดียว ศาลาการเปรียญกว้าง 16 เมตร ยาว 36 เมตรสร้างเมื่อ พ.ศ. 2519 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น กุฏิสงฆ์ จำนวน 23 หลัง เป็นอาคารไม้และครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้น ปูชนียวัตถุมีพระประธานในอุโบสถ

กล่าวกันว่าถ้าย้อนไปในช่วงพุทธศักราช 2328 ประเทศไทยเคยถูกพม่ารุกรานโดยเรียกกันว่า “สงครามเก้าทัพ”  และมีทัพหนึ่งของพม่าบุกมาทางภาคใต้ ต้องการที่จะตีเมืองถลางให้สำเร็จและตอนนั้นเองเจ้าเมืองถลางเพิ่งจะเสียชีวิตได้ไม่นาน ทำให้คุณหญิงจันผู้เป็นภรรยาและคุณหญิงมุกน้องสาวจึงอาสาเป็นผู้บัญชาการรบเอง โดยได้รวบรวมผู้คน อาวุธปืน และประชุมวางแผนป้องกันเมือง แต่ทหารที่มีก็น้อยเกินที่จะปะทะกับทัพพม่า คุณหญิงจันและคุณหญิงมุกจึงคิดอุบายให้พม่าถอยทัพกลับโดยเร็วที่สุด

โดยการรวบรวมผู้หญิงในเมืองถลางราว 500 คน ทำทีแสร้งทำเป็นว่าถือดาบ มาแต่งตัวเลียนแบบเป็นชาย ทั้งการเดิน บุคลิกท่าทาง เพื่อลวงข้าศึกทำทีว่าจะยกพลเข้าตีทัพพม่าได้ทุกครา และอีกกลยุทธ์จัดขบวนไพร่พลเดินตระเวน และประชุมพลถ่ายเทคนเข้าออกค่ายตลอดเวลา เป็นการทำให้เห็นว่ากองทัพไทยมีกำลังเสริมเข้ามาตลอด ทำให้ทัพพม่าลังเลใจที่จะเข้าตีเมืองถลางเวลานั้น นับเป็นการถ่วงเวลาที่ชาญฉลาด แต่ก็ใช้ระยะเวลาที่ยาวนานถึง 5 เดือน

ถึงจะส่งผลให้กองทัพพม่าเริ่มขาดเสบียงอาหารและบาดเจ็บล้มตาย

เมื่อไม่เห็นทางจะตีเมืองถลางให้แตกได้ พม่าจึงตัดสินใจยกทัพกลับไปในที่สุด และวีรกรรมของคุณหญิงจันคุณหญิงมุกในครั้งนั้นทำให้ คุณหญิงจันได้เป็นท้าวเทพกระษัตรี และคุณหญิงมุก เป็นท้าวศรีสุนทร เป็นการเทอดพระเกียรติแก่คุณงามความดีที่มีต่อประเทศต่อไป  วัดศรีสุนทร และในทุกๆ ปี ชาวภูเก็ตจะจัดงานประจำปี งานสดุดีท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ช่วงประมานเดือนมีนาคมค่ะ และหากทุกท่านได้มาได้เที่ยวจังหวัดภูเก็ตแล้วจีนก็ขอแนะนำสถานที่สักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวภูเก็ตที่ไม่ควรพลาด ซึ่งมีถึง 3 สถานที่เลยที่เดียว

ท้าวเทพกระษัตรี (เกิดราวปี พ.ศ. 2278 หรือ 2280 – ราวปี พ.ศ. 2336) และ ท้าวศรีสุนทร (ไม่ทราบปีเกิด) ได้รับยกย่องให้เป็นวีรสตรีของชาติ จากเหตุการณ์วีรกรรมของท่านทั้งสอง ที่ได้ปกป้องเมืองถลางให้พ้นจากการรุกรานของพม่า เมื่อปลายปีมะเส็ง พ.ศ. 2328 ตามที่มีบันทึกในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๑ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ในฐานะภรรยาพระยาถลางที่เพิ่งถึงแก่อนิจกรรมไปไม่นาน ท่านและน้องสาวได้เกณฑ์

กรมการกับพลทหารทั้งชายหญิงสู้รบกับพม่า ทำการป้องกันเมืองถลางให้พ้นจากข้าศึกได้ Chang Thai  ในสงครามเก้าทัพสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ศึกครั้งนั้นสู้รบกันอยู่ประมาณเดือนเศษ ทัพพม่ายังหักเอาเมืองไม่ได้ ขาดเสบียงอาหารจึงถอยทัพลงเรือกลับไป ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คุณจันขึ้นเป็นท้าวเทพกระษัตรี และมุกน้องหญิงขึ้นเป็นท้าวศรีสุนทร

เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบและประกาศเกียรติคุณในความกล้าหาญ

วัดฉลอง

อีกหนึ่งจังหวัดสวยของภาคใต้ เชื่อว่าหลายคนคงมีจุดมุ่งหมายในิารท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเที่ยวทะเลสวยๆ หรือพักผ่อนชิลๆ ที่โรงแรม บางคนก็ชอบแวะคาเฟ่ เดินเล่นย่านเมืองเก่า ส่วนสายบุญ ที่ภูเก็ตก็ยังมีหลายวัดให้ไปทำบุญกัน และหนึ่งในวัดดังของภูเก็ต  ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเสมอ ก็คือ หรือ “วัดไชยธาราม” วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต และเป็นศูนย์รวมจิตใจความศรัทธาของชาวภูเก็ต วัดแห่งนี้มีบรรยากาศที่คึกคักตลอดเวลา เพราะมีผู้คนจำนวนมากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ ต่างพากันมากราบขอพรหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม และหากเดินอ้อมองค์พระมาด้านหลังก็จะได้เห็นพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อแช่ม เป็นห้องกระจกเล็กๆ ภายในมีรูปหล่อหลวงพ่อ วัดฉลอง และมีข้าวของเครื่องใช้ของท่านจัดแสดงไว้

พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี

พระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานากเกิด ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เป็นรูปปั้นที่มีความสูงเป็นอันดับที่ห้าของประเทศไทย พระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 25.45 เมตร สูง 45 เมตร  วัดศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ต สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวนอกบุด้วยหินอ่อนสีขาว พระพักตร์หันไปทางอ่าวฉลอง ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 19 องศา เป็นพระประธานของวัดกิตติสังฆาราม (วัดกะตะ) การก่อสร้างพระใหญ่ ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2545 ด้วยเงินบริจาคของประชาชน โดยได้รับอนุญาตการจัดสร้างจากกรมป่าไม้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการประดับผิวองค์พระ

วัดพระทอง

ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2328 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2523 มีพระพุทธรูปโบราณ มีลักษณะครึ่งองค์โผล่จากพื้น และมีอีกเรื่องเล่าว่า เมื่อคราวพระเจ้าปดุงมาตีเมืองถลางก็พยายามขุดพระไปด้วย แต่ไม่สามารถนำขึ้นได้เช่นกัน จึงสร้างพระครึ่งองค์ครอบไว้เรียกว่า พระผุด จนเมื่อพระธุดงค์มาปักกลดบริเวณนี้แล้วสร้างวัด โดยอัญเชิญพระผุดเป็นพระประธานในโบสถ์ กล่าวกันว่าพระผุดเป็นพระทองคำ จึงพอกปูนทับลงไปอีกครั้งดังที่เห็นในปัจจุบัน นามของวัดชาวบ้านเรียกแตกต่างกันไปว่า วัดพระทอง วัดนาใน บ้าง วัดพระผุด บ้าง หรือ วัดพระหล่อคอ ตามลักษณะพระพุทธรูป

Inside the temple, there is a large reclining Buddha image measuring more than 95 feet

which is installed on the building that is the base! of this reclining Buddha image. It is considered to be a large! reclining Buddha with a beauty and strangeness that cannot be seen at other temples.  In addition, inside Wat Sri Sunthon There is also an ordination hall, 6 meters wide and 12 meters long

built in the ancient style. with only one full wall covering the back. changthairentals  The other three sides only have one half. This is a characteristic of an ancient church that is hard to find nowadays. As for the Pavilion, it is a two-story! reinforced concrete building, 16 meters wide and 36 meters long, built in 1976.

The atmosphere inside Wat Sri Sunthon is shady, quiet and suitable for sitting and meditating. In addition to the reclining Buddha image, which is the most outstanding thing in the temple, There are other Buddha statues at the entrance to the temple.

There are many other beautiful statues! lined up as well.

It is another beautiful temple in Thalang, Phuket. There is a large reclining Buddha statue over 95 feet tall, very beautiful, and there are many other Buddha statues that are equally beautiful. This temple! was originally named Wat Lipon.

Later, the temple changed its name to Wat Sri Sunthon. It is a memorial to the two heroines who protected the city of Thalang in the past.  วัดศรีสุนทร  The atmosphere inside the temple is very shady and quiet, suitable for meditating or anyone who wants to come and pay homage to the Buddha and make merit.

Anyone who comes to Phuket must not forget to stop by this temple. And today we have included accommodation near Wat Sri Sunthon, Phuket, for you. In case anyone who wants to have a convenient trip without having to travel far, stop by and reserve accommodation.

It is a royal temple under the Maha Nikaya group of monks.
วัดศรีสุนทร

Located in Si Sunthon Subdistrict, Thalang District, Phuket Province. It has an area of approximately 22 rai, with 3 plots of monastic land, an area of 10 rai 3 ngan 20 square wah. Wat Sri Sunthon, formerly known as Wat Ban Phon, was built on April 21, 1792. In terms of education 

the temple has provided the teaching of Buddhist scriptures since 1926.  วัดศรีสุนทร  It also has a library. public service Funeral assistance unit and Wat Sri Sunthon School The temple received the Royal Wisungkhamsima Award on November 22, 1988.

Various buildings include the chapel, 6 meters wide and 12 meters long, in the ancient style with a full wall on only the back side. The other three sides are only half full. The sermon hall is 16 meters wide and 36 meters long, built in 1976.

It is a two-story reinforced concrete building. There are 23 monks’ quarters, consisting of two-story wooden and half-timbered buildings. The sacred object has a Buddha image in the chapel.

Scroll to Top